เรามักจะได้ยินเสมอว่าการโค้ชชิ่งจะได้ผลลัพธ์ดีเมื่อโค้ชเก่งและผู้รับการโค้ชมีความตั้งใจจะเรียนรู้และเติบโต
เมื่อองค์กรจ้างโค้ชผู้บริหารมาให้ผู้บริหารแล้ว จะทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ฝ่ายสปอนเซอร์ เช่น ซีอีโอ ผู้บริหารฝ่ายHR หรือผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นจะมีบทบาทอะไรได้บ้าง
1. ให้โค้ชได้เข้าถึง
ความเข้าใจของโค้ชต่อองค์กรส่งผลต่อการโค้ช การได้รู้จักความเป็นมา ค่านิยม รูปแบบของผู้นำ สถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ความท้าทายขององค์กร ก็ช่วยให้การโค้ชมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการโค้ชนั้นโฟกัสไปที่เรื่องการพัฒนาภาวะผู้นำ การสื่อสาร ความร่วมมือ หรือแม้แต่เรื่องความตระหนักรู้ของบุคคล
การเข้าถึงในที่นี้หมายรวมถึง การให้โค้ชได้พูดคุยกับบุคลากรในองค์กร คุยกับเพื่อนร่วมงานของผู้ที่รับการโค้ช เป็นต้น
หลายครั้งที่เราพบว่าการพูดคุยกับคนไม่กี่คนที่สปอนเซอร์และผู้รับการโค้ชเลือกมา ซึ่งส่วนมากอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “พวกเดียวกัน” ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างที่คิด มีความไม่เห็นด้วย ไม่ลงรอย ปนอยู่บ้าง ดังนั้น จึงควรให้โค้ชได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องหลายๆคน เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมที่แท้จริง และได้เข้าใจวิธีการสื่อสาร การทำงานร่วมกับผู้อื่นของผู้รับการโค้ชด้วย
2. ให้เครดิตโค้ช
แม้ว่าสปอนเซอร์จะเชื่อในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของโค้ชท่านนั้นอยู่แล้ว แต่การได้แนะนำโค้ชอย่างเป็นทางการต่อผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเรามีความเชื่อมั่นในโค้ช รวมทั้งได้กล่าวถึงโค้ชอย่างเฉพาะเจาะจง ก็จะทำให้คนในองค์กรปฏิบัติต่อโค้ชอย่างหุ้นส่วนหรือเพื่อนร่วมทางอย่างแท้จริง
3. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
การมีความคาดหวังที่ชัดเจนเป็นหัวใจสำคัญของการโค้ช ทั้งองค์กร สปอนเซอร์ โค้ช และผู้เกี่ยวข้องต้องเข้าใจตรงกันว่าเป้าหมายของการโค้ชคืออะไร บทบาทของโค้ชคืออะไร เพื่อให้แต่ละคนได้คาดหวังในสิ่งที่ตรงกัน และหากต้องการขยายบทบาทของโค้ชหรือมีความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น ก็ควรสื่อสารเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
4. ป้องกันการก้าวก่ายจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
คนในองค์กรอาจจะพยามเข้าถึงตัวโค้ชเพื่อให้ข้อมูลที่ส่งผลต่อผู้รับการโค้ช นอกเหนือไปจากการที่ตกลงกัน และแสดงออกว่าเป็นการเข้ามายุ่งกับการโค้ชเกินความพอดี สิ่งเหล่านี้ป้องกันได้โดยสปอนเซอร์ได้กำหนดบทบาทและขอบเขตของโค้ชที่ชัดเจน รวมทั้งสื่อสารเพื่อไม่ให้ผู้บริหารที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาก้าวก่าย
5. หลีกเลี่ยงการโปรโมตว่าโค้ชคือผู้มีอำนาจ
การแสดงออกอย่างเกินความจริงว่าโค้ชคือผู้มีอำนาจ มีบทบาทในการประเมินผู้รับการโค้ช จะส่งผลให้ผู้รับการโค้ชรู้สึกอึดอัด ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ บางครั้งอาจจะรู้สึกถูกคุกคามจากบางคำถาม ดังนั้น สปอนเซอร์ควรแนะนำโค้ชอย่างพอดีตามความเป็นจริง ให้เครดิตและสร้างความเชื่อมั่น แต่ต้องไม่โปรโมตไปในทางที่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกว่าคือผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่
องค์กรสามารถได้ประโยชน์สูงสุดจากโค้ชผู้บริหารได้ เมื่อสนับสนุนโค้ชใน 5 วิธีการที่เล่ามา
สรุปความจาก 5 Ways Organizations Can Get the Most out of an Executive Coach, By John Behr, Harvard Business Review