Work Life Balance เริ่มตรงไหน
หัวข้อที่มีผู้รับการโค้ชยกมาคุยมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือ “ฉันต้องการ Work Life Balance” แล้วเขาจะเริ่มจากตรงไหนดีถ้าทั้งงานและครอบครัวก็ต้องการเวลาจากเขาทั้งนั้น
คนทำงานที่มีบทบาทในงานมาก มีทีมใหญ่ที่ต้องดูแล มีขอบเขตของงานกว้าง และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหลายอย่าง มักจะต้องใช้เวลาการทำงานมากกว่าเวลางานปกติรวมถึงต้องทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย คนกลุ่มนี้ก็ยังต้องมีบทบาทในครอบครัวด้วย บางคนมีลูกเล็กตั้งแต่วัยแบเบาะไปจนถึงวัยมัธยม บางคนต้องดูแลผู้ใหญ่หรือคนป่วยในครอบครัว ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องการเวลาในการจัดการทั้งสิ้น
คนที่อยู่ในสถานการณ์นี้ บางครั้งก็ดูเหมือนจะหาทางออกไม่ได้ เวลาที่มีอยู่จำกัดไม่เพียงพอต่อทุกๆด้าน บางคน Burnout บางคนตัดสินใจเลือกตัดบางอย่างลงเพื่อให้มีช่องว่างเพิ่มขึ้นเพียงพอที่เขาจะ “เอาอยู่” บางคนเลือกที่จะหยิบหัวข้อนี้มาคุยกับโค้ช
มีครั้งหนึ่งที่ผู้รับการโค้ชมาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ฉันให้เวลากับคนอื่นไปหมดไม่เหลือเวลาสำหรับตัวเองเลย ฉันไม่อยากตัดอะไรทิ้ง ความก้าวหน้าในงานก็เป็นความฝันของฉัน ครอบครัวก็เป็นชีวิตของฉัน ฉันรู้สึกเศร้าเหลือเกิน บางครั้งก็เกือบจะสิ้นหวัง ฉันเหนื่อยและสมองก็เบลอไปหมด
โค้ชชวนให้คิดถึง NLP Model ที่เคยแชร์ให้ฟังตอนไปสอนที่บริษัทของเขา “ฉันคิดดี-ฉันรู้สึกดี-ฉันลงมือทำเต็มที่-ฉันสำเร็จ” เขาค่อยๆวาดมือไปในอากาศเหมือนตอนเรียนพร้อมบรรยายว่า ถ้าฉันยังไม่สำเร็จก็ต้องลงมาดูว่าฉันทำเต็มที่หรือยัง เมื่อฉันทำเต็มที่แล้วแต่ฉันยังไม่สำเร็จก็ต้องลงมาดูว่าฉันรู้สึกดีหรือยัง ... แล้วเขาก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมาว่า ฉันอาจจะไม่ได้รู้สึกดีจริงๆก็ได้ ฉันรู้สึกเหนื่อย รู้สึกว่าหนักอึ้ง รู้สึกว่าอะไรๆก็ฉัน บางครั้งก็ตัดพ้อด้วย ฉันรู้แล้วว่าความคิดแบบนี้ไม่ส่งเสริมให้ฉันได้พลังที่ดีเลย
โค้ชถามว่าจากความเข้าใจของคุณที่ได้อธิบายมา คุณคิดว่าจะทำอย่างไร เขาตอบพร้อมใบหน้าที่มีความหวัง ฉันจะยิ้มพร้อมกับความรู้สึกดีๆว่าฉันกำลังทำเพื่ออะไร ฉันมีความสามารถและจะก้าวหน้าในการงาน ฉันจะได้เห็นลูกๆที่น่ารักเติบโต ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องดีที่ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกดีก็อนาคตที่ฉันกำลังสร้างอยู่ ฉันมีความสุขที่คิดถึงเรื่องนี้
บางครั้งการทำงานก็มีปัญหาและอุปสรรคบ้าง ฉันอาจจะอารมณ์ไม่ดีและอาจจะเสียใจบ้าง แต่ฉันจะไม่เอามาปนกับเป้าหมายที่จะกำลังเดินไปหา ฉันเชื่อว่าถ้าฉันมองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง ฉันจะค่อยๆใช้สติปัญญามาจัดการปัญหาได้เป็นเรื่องๆไปได้
โค้ชถามว่าแล้วเรื่อง Work Life Balance ที่คุณยกมาคุยในตอนต้นหล่ะ คุณมองเรื่องนี้อย่างไร เขายิ้มกว้างพร้อมตอบว่า Work Life Balance เริ่มต้นที่ฉันรู้สึกดีค่ะโค้ช เมื่อฉันรู้สึกดี ฉันจะมีพลังงานดีมากเพียงพอที่จะเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันจะมีกำลังใจที่จะจัดการทีละเรื่องได้ ฉันมีความคิดและปัญญาเพียงพอที่จะรับมือกับสิ่งต่างๆได้ค่ะ ขอเพียงฉันยังรู้สึกดีอยู่และไม่หล่นไปอยู่ในอารมณ์ติดลบค่ะ
ในชีวิตของเราก็มีปัญหาให้แก้และมีอุปสรรคให้จัดการ หากเราตั้งหลักให้ดี เรียบเรียงลำดับของสมการ “ฉันคิดดี-ฉันรู้สึกดี-ฉันลงมือทำเต็มที่-ฉันสำเร็จ” ได้ เราก็จะจัดการเรื่องราวต่างๆได้
ดร.หนิง ดไนยา ตั้งอุทัยสุข
ติดตามได้ทาง Line OA คุณจะไม่พลาดบทความพัฒนาผู้นำจากเรา
https://lin.ee/CWQqKwT
