หาโอกาสให้ธรรมชาติดูแลเราในช่วงวันหยุดนี้กันค่ะ
ตลอด 2 ปีมานี้ พวกเราปรับตัวให้สามารถทำงานจากบ้าน ประชุมทางไกล เรียนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนกันเท่าไรนัก ปรากฏว่าอาการออฟฟิศซินโดรมกลายเป็นโรคยอดฮิต ความเครียดสะสมทำให้สุขภาพอ่อนแอกว่าที่เคย จะดีไหมถ้าเราไม่ต้องรอจน Burnout หาเวลาให้ตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง ให้ธรรมชาติได้เยียวยาเราบ้าง
ประโยชน์ 4 ประการของการดูแลตัวเองด้วยธรรมชาติ
1. เพิ่มความอ่อนเยาว์ และลดความเสี่ยงจากโรคร้าย
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่าพื้นที่สีเขียว สภาพแวดล้อมนอกเมือง การอยู่นอกบ้าน เป็นพื้นฐานของความอ่อนเยาว์ ถึงแม้ว่าเรายังต้องอาศัยอยู่ในเมือง ยังทำงานผ่านหน้าจอที่ทำให้เราได้ใช้พลังสายตาและนิ้วมือมากกว่าการขยับร่างกายทั้งตัว แต่เราก็ยังจะได้ประโยชน์จากธรรมชาติอยู่ไม่น้อย การได้ชื่มชมดอกไม้ใบหญ้า ได้เหยียบพื้นหญ้า ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีความหวัง ละวางความหมกมุ่นและความเครียดได้
มีการศึกษาในประเทศสเปนเปรียบเทียบการใช้เวลาในธรรมชาติระหว่างคนที่เป็นโรคมะเร็งและไม่เป็นโรคมะเร็ง พบว่ากลุ่มที่ใช้เวลาในธรรมชาติมากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่าคนที่ใช้เวลาในธรรมชาติน้อย
หากต้องการลดโอกาสจากการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ให้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งแวดล้อมสีเขียว ทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมบนพื้นที่สูง เช่น บนภูเขา งานวิจัยและหนังสือหลายเล่มพูดถึงแสงแดดและวิตามินดี ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวาน เช่นกัน
2. เพิ่มความสามารถทางสมอง
ไม่เพียงแต่เราต้องการอาหารที่มีแร่ธาตุและวิตามินที่เพียงพอเพื่อจะป้องกันโรคความจำเสื่อมแล้ว ยังมีงานวิจัยจำนวนหลายสิบฉบับกล่าวว่าการได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ การทำสวน สามารถลดความเสี่ยงจากอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมได้ เนื่องจากการได้อยู่กลางแจ้ง ได้รับแสงแดด อากาศบริสุทธิ์ ประสาทสัมผัสหลายส่วนได้ทำงานพร้อมๆกัน
ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นว่าต้องไปเดินป่า ขึ้นเขา เที่ยวน้ำตก เท่านั้น แต่การทำสวน ปลูกต้นไม้ แม้เพียงพื้นที่เล็กๆก็ช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากธรรมชาติเช่นกัน
3. สร้างเสริมสุขภาพกาย
การออกแรงทำกิจกรรมต่างๆทำให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย ได้สูดหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มาก หากเราแข็งแรงมากพอ การได้วิ่งในสวนสาธารณะ วิ่งเทรล หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ก็ได้ประโยชน์แน่นอน แต่หากร่างกายไม่พร้อมจะลุยมากๆ แค่ได้โยคะในสนามหญ้า การเดินช้าๆในสวน หรือการทำสวนข้างบ้าน ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน
4. สร้างเสริมสุขภาพใจ
ปัจจุบันนี้ เราพบว่าการมีสุขภาพใจที่ดีมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีและส่งผลให้ชีวิตยืนยาวด้วย คนที่ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ ได้สัมผัสแสงแดด จะมีความสุขมากขึ้น ความเครียดลดลง
ในปี 2019 มีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่าการใช้เวลา 10 นาที จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ในธรรมชาติ ทำให้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพเกี่ยวกับความเครียดลดลงถึง 20% เนื่องจากการใช้เวลาข้างนอกทำให้เราหลุดออกจากสิ่งเครียดต่างๆและให้เราได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติแวดล้อม ในปี 2020 ยังมีงานอีกชิ้นที่บอกว่ามีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างธรรมชาติและความสุข การได้ใช้เวลาในพื้นที่สีเขียวช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น สุขภาพทางใจแข็งแรง ซึ่งมีผลต่อความสามารถทางสมองและความคิดสร้างสรรค์ด้วย
ไม่ว่าเราจะได้ใช้เวลาในป่า ในสวนสาธารณะ ใต้ต้นไม้ บนพื้นหญ้า หรือแค่ทำสวนข้างบ้าน เราก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รับการดูแลจากธรรมชาติแล้ว นอกจากจะทำให้เราห่างจากโต๊ะทำงานบ้างแล้ว สุขภาพกายและใจก็ได้รับการเยียวยา แข็งแรงเพียงพอที่จะกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
อ้างอิงบางส่วนจาก https://www.drjohnlapuma.com/wellness-and-health/how-time-in-nature-can-help-you-live-longer/?awt_a=1jNDg&awt_l=60Fli&awt_m=idpO3cMNqSWcZDg
ดร.หนิง ดไนยา ต้ังอุทัยสุข